เลียงผา
ลักษณะทั่วไป
เลียงผาเป็นสัตว์กีบคู่ (Artiodactyla) ในวงศ์มหิงสา (Bovidae) เช่นเดียวกับวัว ควาย แพะ แกะ อยู่ในวงศ์ย่อยแพะแกะ (Caprinae) เลียงผาเป็นสัตว์โบราณที่สุดของวงศ์ย่อยแพะแกะ (Geist, 1985) จึงมีปัญหาในการจำแนกว่าจะอยู่ในสกุลใดระหว่าง Capricornis และ Nemaorhaeaedus ดังนั้นจึงพบว่าเลียงผามีชื่อวิทยาศาสตร์ทั้ง
Capricornis sumatraensis ในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
พ.ศ. 2535 ใช้ชื่อวิทยศาสตร์ Capricornis
sumatraensis
|
โดยชื่อสกุลเกิดจากการนำคำลาตินและกรีก
2 คำมารวมกันคือคำว่า Capri มาจากคำภาษาลาติน Caprea แปลว่า แพะ (Giats) ส่วนคำว่า Cornis เป็นภาษากรีก แปลว่าเขา (Horn)
ดังนั้น คำว่า Capricornis จึงแปลว่า สัตว์ที่มีเขาอย่างแพะส่วนชื่อชนิดเกิดจากการนำคำลาติน
2 คำมารวมกันคือคำว่า Sumatra และ ensis
คำว่า Sumatra หมายถึง เกาะสุมาตราของประเทศอินโดนีเซีย
ส่วนคำว่า ensis หมายถึงสถานที่ (Locality) ดังนั้นชื่อวิทยาศาสตร์ของเลียงผาคือ Capricornis sumatraensis จึงหมายถึง สัตว์มีเขาอย่างแพะแห่งเกาะสุมาตราสำหรับชื่อวิทยาศาสตร์อีกชื่อหนึ่งคือ
Nemaorhaeaedus sumatraensis มีความหมายว่าแพะหนุ่มแห่งพงไพรของเกาะสุมาตราเนื่องจากคำว่า
Nemor มาจากคำว่า Nemoris ในภาษาลาติน
แปลว่า ป่า (Grave, Forest) และ Haedus มาจากภาษาลาตินแปลว่าแพะหนุ่ม (Young Goats) เลียงผามีชื่อสามัญว่า
Serow มาจากคำว่า Saro ในภาษาของชาว Lepcha
ที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์เล็ก ๆ อาศัยอยู่ในสิกขิม
เลียงผาเป็นสัตว์ที่มีรูปร่างคล้ายแพะแต่มีรูปหน้ายาวหว่า
มีลำตัวสั้นแต่ขอยาว (วิชาญและสวัสดิ์,2539)
ตัวเมียเล็กกว่าตัวผู้ มีเขาทั้งตัวผู้และตัวเมีย
เขางอกยาวต่อเนื่องทุกปี อาจยาวสุดเพียง 32 เซนติเมตร
เส้นรอบวงโคนเขาประมาณ 15 เซนติเมตร ลักษณะของกะโหลกเมื่อเปรียบเทียบกับกวางผาที่มีกะโหลกโค้งเว้าแล้ว
เลียงผามีกะโหลกแบน ขนตามลำตัวมีสีดำ แต่เมื่ออายุมากขึ้นจะมีสีขาวแซม ขนขามีทั้งที่เป็นสีดำและสีแดงขึ้นอยู่กับสภาพถิ่นที่อยู่อาศัย
เลียงผาที่อยู่ใต้คอคอดกระจะมีขนขาสีดำ ในขณะที่เลียงผาที่อยู่เหนือคอคอดกระจะมีขนสีแดง
(สืบ, 2531) เลียงผามีขนที่ปากและใต้คาง สีขาว มีขนแผงคอที่ยาวและแข็งพาดผ่านจากหัวไปถึงโคนหาง
แต่จะเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่หัวถึงกลางหลัง มีต่อมกลิ่นใต้ดวงตา ใช้ถูตามก้อนหินหรือโคนต้นไม้เพื่อการหมายอาณาเขตครอบครอง
การแพร่กระจาย
เลียงผามีการแพร่กระจายตั้งแต่ตอนเหนือของอินเดีย บังคลาเทศ พม่า
ไทย จีนตอนใต้ ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย (Lekagul and
McNeely, 1977) ในประเทศไทยประชากรกระจายอยู่เป็นหย่อม ๆ ตามป่าตั้งแต่เหนือจรดใต้และตะวันออกจรดตะวันตก
โดยเฉพาะตามเทือกเขาตะนาวศรี เทือกเขาถนนธงชัย เทือกเขาเพชรบูรณ์และภูเขาทั่วไปในบริเวณภาคใต้รวมทั้งบนเกาะในทะเลที่อยู่
ไม่ห่างจากแผ่นดินใหญ่มากนัก ในประเทศไทยมี 2 สายพันธุ์ย่อย
คือ C. s. maritimus พบเหนือคอคอดกระขึ้นไป และ C. s.
sumatraensis พบตั้งแต่ใต้คอคอดกระลงไปจนถึงประเทศอินโดนีเซีย
นอกจากนี้ เลียงผายังมีชนิดย่อยอีก 3 สายพันธุ์ย่อยคือ C.
s. tahr พบในพื้นที่ตอนบนของอินเดีย สายพันธุ์ย่อย C. s.
rubidus mพบในบังคลาเทศ และสายพันธุ์ย่อย C. s.
milneedwardsi พบในจีนตอนใต้ (สืบ, 2531) สายพันธุ์ย่อยนี้อาจพยได้ทางตอนบนสุดของประเทศ
สถานภาพ
จากการประเมินประชากรของเลียงผาในประเทศ ปัจจุบันมีประชากรในธรรมชาติประมาณ
1,000-1,500 ตัว จากการจัดสถานภาพโดย IUCN (2004) เลียงผามีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ (Endangered) และจากการคุ้มครองโดยอนุสัญญา
CITES (2005) เลียงผาถูกจัดอยู่ในบัญชี 1 (Appendix
l)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น